การแต่งกายของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีมรดกทางวัฒนธรรมประจำชาติที่เป็นของตนเองมาเป็นระยะเวลายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นศิลปะไทย มารยาทไทย ภาษาไทย อาหารไทย และชุดประจำชาติไทย
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีคุณค่า มีความงดงามบ่งบอกถึงเอกลักษณ์แห่งความเป็น "ไทย" ที่นำความภาคภูมิใจมาสู่คนในชาติ การแต่งกายของไทยโดยเฉพาะในยุครัตนโกสินทร์ซึ่งมีอายุยาวนานมากกว่า 200 ปีนั้น ได้มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับ
การแต่งกายของวัยรุ่นในปัจจุบัน ถูกมองว่าน่าเกลียด ฝ่าฝืนจารีตประเพณี โดยเฉพาะการแต่งกายของวัยรุ่นหญิงที่นุ่งประโปรงสั้น ใส่เสื้อรัดรูป เกาะอก วัยรุ่นชายทำสีผม เจาะหู เจาะลิ้น เจาะคิ้ว ลักษณะการแต่งกายเหล่านี้อาจดูประหลาด ขัดหูขัดตาผู้ใหญ่ หลายคนอาจถามว่าวัยรุ่นไทยแต่งตัวเหมาะสมหรือไม่ ถูกกาลเทศะหรือไม่ เลียนแบบตะวันตกหรือไม่ ทำลายวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยหรือไม่ คำถามเหล่านี้ได้รับการถกเถียงระหว่างนักอนุรักษ์นิยมกับหัวก้าวหน้า และดูเหมือนแต่ละฝ่ายจะมองข้ามรายละเอียดบางอย่างไป
สิ่งที่สังคมไทยยังขาดอยู่มากก็คือการทำความเข้าใจความหลากหลายของมนุษย์และวิถีชีวิต ถ้าการแต่งกายเป็นการแสดงออกทางสังคมประเภทหนึ่ง ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเผ่าพันธุ์ต่างมีเป็นของตัวเอง กลุ่มผู้หญิง ย่อมมีการแต่งกายของตัวเอง เช่นเดียวกับผู้ชาย เกย์ กะเทย วัยรุ่นก็เป็นกลุ่มทางสังคมประเภทหนึ่งที่ต้องการแสดงออก และสื่อสารในสิ่งที่เขาเชื่อว่ามีคุณค่ากับชีวิต การใส่เสื้อผ้าแปลกๆ รัดรูป หรือรุ่มร่าม อาจเป็นการแสดงคุณค่าของตัวตนบางอย่าง เช่นเดียวกับการที่ผู้ใหญ่นิยมสวมชุดไทยผ้าไหม หรือสวมสูทแบบนักธุรกิจ แฟชั่นการแต่งกายจึงเป็นทางเลือกที่ไร้ขอบเขต
ลักษณะ การแต่งกายของวัยรุ่นไทยตามแบบ วัฒนธรรมตะวันตก
1.เกาหลี (Korea)
ตอนนี้กระแสเกาหลีกำลังมากแรง ไม่ว่าจะเป็นไอดอล เพลง ไม่เว้นแต่เสื้อผ้า เสื้อผ้าเกาหลีจะออกแนว เรียบแต่ดูดี มีทุกสัสัน ใส่ได้ทุกงาน กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุด
2.ญี่ปุ่นฮาราจุกุ (Japan)
เป็นแนวการแต่งตัวที่แอ็บแบ๊วมากที่สุด หรือแนวๆ คอสเพลย์แบบญี่ปุ่นๆ
สาวๆ จะนิยมทาหน้าทาตัวให้ดำ และย้อมผมสีทอง ใส่ไมโครสเกิร์ตและรองเท้าบูต ซึ่งเราจะเรียกว่า แฟชั่น Gankuro-หน้าดำ ซึ่งนับว่า เป็นแฟชั่นที่หลุดโลกมากทีเดียว
4.พั้งก์ (Punk)
เด็กพั้งก์มักไม่อยู่คนเดียว ส่วนใหญ่จะอยู่เป็นกุล่ม ซึ่งกลุ่มเด็กพั้งก์ที่ว่านี้มีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นพั้งก์ร็อค อีโมพั้งก์ พั้งก์เมทอล พั้งสกา พั้งสเก็ต และอีกสารพัดพั้งก์ แต่งตัวส่วนใหญ่เน้นสีดำ ทาเล็บ ปากสีดำ ใส่เสื้อแจ๊คเก็ต กางเกงขารู๊ดรัดปลายขา รองเท้าหนัง บางกลุ่มยัดปลายกางเกงไว้ในรองเท้า เครื่องประดับเน้นทำมาจากเหล็กสีเงิน ออกแนวดุ โหด
คล้ายๆ พังค์แต่จะไม่เวอร์มาก คล้ายเด็กแมค นิยมทาขอบตาเป็นสีดำ เจาะตามร่างกาย เช่น จมูก ปาก (บลาๆๆๆ) ใส่เสื้อยืดสกีนโหดๆ อาร์ตๆ เข็มขัดหัวหมุด รองเท้าผ้าใบ ทำผมข้างหลังให้ฟูมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนผมข้างหน้าทำให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
6.เด็กบอร์ด,เด็กฮิป (Hiphop)
เด็กแนวนี้จะใส่เสื้อและกางเกงตัวใหญ่ๆ ขาสามส่วน จะชอบเพลงแนวฮิปฮอป
และ อีกหลากหลาย สไตล์ ที่ยังไม่ได้ ยกตัวอย่างให้ดู
อย่างไรก็ตามสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นไทย ในตอนนี้เมื่อวัยรุ่นค้นหาเอกลักษณ์ของตัวเองได้พบ รู้จักตัวของเขาเอง รู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ เด็กก็จะเริ่มพัฒนาเรื่องการแต่งตัวไปสู่รูปแบบที่ตัวเองชอบหรือไปสู่รูปแบบที่ตัวเองรู้สึกว่าเหมาะกับวัย กับสิ่งที่เขาต้องการ ช่วงเวลาที่ผ่านไปจะทำให้เขาพัฒนาผ่านช่วงของวัยรุ่นและผ่านช่วงเวลาของแฟชั่นเรื่องการแต่งตัวตามวัยของเขาไปได้ แต่ไม่ได้หมายความเขาจะลืมวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย จากที่ว่าจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นไทยนั้น เราควรมาปลูกจิตสำนึกให้วัยรุ่น รักในเอกลักษณ์ความเป็นไทยและในต่อไปวัยรุ่นจะคิดได้เอง
การที่เด็กไทยนั้นได้รับอิทธิพลการแต่งตัวแบบเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีนั้น ทำให้นั้นเกิดการเลียนแบบและพยายามทำตัวให้เหมือนเด็กญี่ปุ่นและเกาหลี เนื่องจากเกิดจากการเทียบทางวัฒนธรรม และต้องการเป็นในแบบที่เชื่อว่าอยู่ในวัฒนธรรมที่มีชนชั้นที่สูงกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วการแต่งตัวของเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีที่อยู่ในประเทศของต้นแบบนั้นจริงๆ นั้นมีการแต่งตัวที่มีสไตล์การแต่งตัวที่หลายหลายมากกว่าที่เด็กไทยประเทศไทยบริโภคอยู่มาก การที่เด็กไทยรับสไตล์การแต่งตัว มานั้น ยังถือว่าน้อยอยู่ในตอนนี้ เป็นแค่เพียงการเลียนแบบเฉพาะบางส่วน และค่อนข้างเป็นสภาวะไร้ราก กล่าวคือเป็นการ copy ในส่วนของรูปแบบ แต่ไม่ได้ศึกษาถึงกระบวนการสร้างความเป็นญี่ปุ่นและเกาหลี อย่างไรก็ตามเด็กไทยก็มีแนวโน้มว่าจะรับเอาสไตล์การแต่งตัวของเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
สิ่งที่สังคมไทยยังขาดอยู่มากก็คือการทำความเข้าใจความหลากหลายของมนุษย์และวิถีชีวิต ถ้าการแต่งกายเป็นการแสดงออกทางสังคมประเภทหนึ่ง ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเผ่าพันธุ์ต่างมีเป็นของตัวเอง กลุ่มผู้หญิง ย่อมมีการแต่งกายของตัวเอง เช่นเดียวกับผู้ชาย เกย์ กะเทย วัยรุ่นก็เป็นกลุ่มทางสังคมประเภทหนึ่งที่ต้องการแสดงออก และสื่อสารในสิ่งที่เขาเชื่อว่ามีคุณค่ากับชีวิต การใส่เสื้อผ้าแปลกๆ รัดรูป หรือรุ่มร่าม อาจเป็นการแสดงคุณค่าของตัวตนบางอย่าง เช่นเดียวกับการที่ผู้ใหญ่นิยมสวมชุดไทยผ้าไหม หรือสวมสูทแบบนักธุรกิจ แฟชั่นการแต่งกายจึงเป็นทางเลือกที่ไร้ขอบเขต
ลักษณะ การแต่งกายของวัยรุ่นไทยตามแบบ วัฒนธรรมตะวันตก
1.เกาหลี (Korea)
ตอนนี้กระแสเกาหลีกำลังมากแรง ไม่ว่าจะเป็นไอดอล เพลง ไม่เว้นแต่เสื้อผ้า เสื้อผ้าเกาหลีจะออกแนว เรียบแต่ดูดี มีทุกสัสัน ใส่ได้ทุกงาน กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุด
2.ญี่ปุ่นฮาราจุกุ (Japan)
เป็นแนวการแต่งตัวที่แอ็บแบ๊วมากที่สุด หรือแนวๆ คอสเพลย์แบบญี่ปุ่นๆ
3.Gankuro
4.พั้งก์ (Punk)
เด็กพั้งก์มักไม่อยู่คนเดียว ส่วนใหญ่จะอยู่เป็นกุล่ม ซึ่งกลุ่มเด็กพั้งก์ที่ว่านี้มีหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นพั้งก์ร็อค อีโมพั้งก์ พั้งก์เมทอล พั้งสกา พั้งสเก็ต และอีกสารพัดพั้งก์ แต่งตัวส่วนใหญ่เน้นสีดำ ทาเล็บ ปากสีดำ ใส่เสื้อแจ๊คเก็ต กางเกงขารู๊ดรัดปลายขา รองเท้าหนัง บางกลุ่มยัดปลายกางเกงไว้ในรองเท้า เครื่องประดับเน้นทำมาจากเหล็กสีเงิน ออกแนวดุ โหด
5.Emo
คล้ายๆ พังค์แต่จะไม่เวอร์มาก คล้ายเด็กแมค นิยมทาขอบตาเป็นสีดำ เจาะตามร่างกาย เช่น จมูก ปาก (บลาๆๆๆ) ใส่เสื้อยืดสกีนโหดๆ อาร์ตๆ เข็มขัดหัวหมุด รองเท้าผ้าใบ ทำผมข้างหลังให้ฟูมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนผมข้างหน้าทำให้ตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
6.เด็กบอร์ด,เด็กฮิป (Hiphop)
เด็กแนวนี้จะใส่เสื้อและกางเกงตัวใหญ่ๆ ขาสามส่วน จะชอบเพลงแนวฮิปฮอป
อย่างไรก็ตามสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นไทย ในตอนนี้เมื่อวัยรุ่นค้นหาเอกลักษณ์ของตัวเองได้พบ รู้จักตัวของเขาเอง รู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร อะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ เด็กก็จะเริ่มพัฒนาเรื่องการแต่งตัวไปสู่รูปแบบที่ตัวเองชอบหรือไปสู่รูปแบบที่ตัวเองรู้สึกว่าเหมาะกับวัย กับสิ่งที่เขาต้องการ ช่วงเวลาที่ผ่านไปจะทำให้เขาพัฒนาผ่านช่วงของวัยรุ่นและผ่านช่วงเวลาของแฟชั่นเรื่องการแต่งตัวตามวัยของเขาไปได้ แต่ไม่ได้หมายความเขาจะลืมวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย จากที่ว่าจะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่นไทยนั้น เราควรมาปลูกจิตสำนึกให้วัยรุ่น รักในเอกลักษณ์ความเป็นไทยและในต่อไปวัยรุ่นจะคิดได้เอง
การที่เด็กไทยนั้นได้รับอิทธิพลการแต่งตัวแบบเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีนั้น ทำให้นั้นเกิดการเลียนแบบและพยายามทำตัวให้เหมือนเด็กญี่ปุ่นและเกาหลี เนื่องจากเกิดจากการเทียบทางวัฒนธรรม และต้องการเป็นในแบบที่เชื่อว่าอยู่ในวัฒนธรรมที่มีชนชั้นที่สูงกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วการแต่งตัวของเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีที่อยู่ในประเทศของต้นแบบนั้นจริงๆ นั้นมีการแต่งตัวที่มีสไตล์การแต่งตัวที่หลายหลายมากกว่าที่เด็กไทยประเทศไทยบริโภคอยู่มาก การที่เด็กไทยรับสไตล์การแต่งตัว มานั้น ยังถือว่าน้อยอยู่ในตอนนี้ เป็นแค่เพียงการเลียนแบบเฉพาะบางส่วน และค่อนข้างเป็นสภาวะไร้ราก กล่าวคือเป็นการ copy ในส่วนของรูปแบบ แต่ไม่ได้ศึกษาถึงกระบวนการสร้างความเป็นญี่ปุ่นและเกาหลี อย่างไรก็ตามเด็กไทยก็มีแนวโน้มว่าจะรับเอาสไตล์การแต่งตัวของเด็กญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
ตัวอย่างคลิป การแต่งกายของนักศึกษาไทย